(อ่านแล้ว 5687 ครั้ง)
คณะแพทย์แผนไทยสัญจร นำโดย หมอโบ พลเอกอรรฐพร โบสุวรรณ พร้อมด้วย หมอ ธนพล คงน้อย /หมอไพรัชร์ บุญวิธราเจริญ พระเอกหนุ่ม โอ๊ต สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ ในฐานะนักศึกษาแพทย์แผนไทย ร่วมเปิดเผยถึงกิจกรรมแพทย์แผนไทยสัญจร เมื่อวันที่ 6 พ.ย.67 ที่ผ่านมา คณะแพทย์แผนไทยสัญจร 5 คนออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ ไปยัง ม.ราชภัฏเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ และ ม.ราชภัฎเชียงใหม่วิทยาลัยเขตแม่ฮ่องสอน จว.แม่ฮ่องสอน
เพื่อไปรักษาและจ่ายยาให้ผู้ป่วยที่อยู่ในความช่วยเหลือของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่กว่า 20 ราย ในการนี้ทางคณะแพทย์ฯ ได้รับการร้องขอจากบุตรสาวคุณยายอายุ 92 ปี ท่านหนึ่งที่เข้ารับการรักษาสุขภาพที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีอาการปวดเข่าและขาจากการนอน โดยการนำของหมอไพรัชณ์ บุญวิธราเจริญ ได้ทำการนวดรักษา ให้เลือดลมและลมในเส้นเดินได้สะดวกซึ่งเป็นการแก้อาการโดยตรงแต่ก็ต้องนวดด้วยความระมัดระวังเพราะคุณยายอายุมากแล้ว
ต่อมา วันที่ 7 พ.ย.คณะออกเดินทางไป จว.แม่ฮ่องสอน ก่อนถึงได้แวะเข้าถวายคิลานเภสัชและปัจจัยแด่หลวงตาสายหยุดวัดป่าถ้ำวัว
และวันที่ 8 พ.ย.ได้ทำการ เปิดคลินิกรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในการช่วยเหลือของราชภัฎเขียงใหม่วิทยาลัยเขตแม่ฮ่องสอน จำนวน 82ราย ซึ่งมีระยะทางไกล ถนนหนทางคดเคี้ยวยากลำบาก เมื่อรักษาเสร็จได้ออกเดินทางกลับเวลา 16.00 เส้นทาง ขุนยวม - ท่าสองยาง - แม่สอด เป็นเส้นทางสายเปลี่ยวยามค่ำคืนแทบไม่มียานพาหนะสัญจร
หมอโบ พลเอกอรรฐพร โบสุวรรณ กล่าวว่า การเดินทางออกหน่วยแพทย์ฯ ครั้งนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 6-9 พ.ย.ที่แม่ฮ่องสอนมีผู้ป่วยให้มารักษาและจ่ายยาจำนวนมากแต่คณะแพทย์ฯทุกท่านต่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย มีแต่ความตั้งใจที่จะรักษาดูแลอาการให้ผู้ป่วยทุกท่าน และที่สำคัญทุกครั้งที่เดินทางมาแม่ฮ่องสอนก็สุขใจทุกครั้ง แม้เป็นเมืองชายแดนที่ห่างไกลทุรกันดาร แต่บุคลากรของรองคณบดีและชาวแม่ฮ่องสอนล้วนมีน้ำใจไมตรีที่ดีและเป็นกันเองเป็นอย่างยิ่ง นี่เองคือเสน่ห์ของเมืองแม่ฮ่องสอน
นอกจากนี้ขากลับรถน้ำมันหมดเนื่องจากถนนหนทางทุรกันดารอีกทั้งมืดมิด ทางคณะพยายามประคองรถแวะหมู่บ้านริมทางและปลุกเจ้าของปั้มหลอด เพื่อขอเติมน้ำมัน ต้องขอบคุณพระเอกหนุ่ม โอ้ด สุรศักดิ์ ซึ่งเป็นดาราชื่อดัง ทำให้เจ้าของปั้มจึงยอมออกมาเปิดร้านเติมน้ำมันให้
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณแม่ลัดดา ทรงประกอบ และคุณขนิษฐา สุขวรรณวิทย์ ที่ได้บริจาคเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายในกิจกรรมครั้งนี้ นับเป็นการร่วมทำบุญช่วยเหลือผู้ป่วยในถิ่นทุรกันดารร่วมกัน