ภ.1 เปิดเผยดำเนินการประชาสัมพันธ์ในเพจ Facebook ห้วงเทศกาลสงกรานต์

ติดตามข่าวท้องถิ่น ร้องทุกข์ชาวบ้าน ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม การเมือง บันเทิง กีฬา และคอลัมน์ วิเคราะห์เจาะลึก รายการพากินพาเที่ยว รับงานอีเวนท์ออกสื่อทุกชนิด สมัครเป็นสมาชิกส่งข่าว ร้องทุกข์ และร้องเรียนได้ที่ pooth.pnn@gmail.com *ห้ามมิให้ผู้สื่อข่าวใช้จรรยาบรรณไปในทางไม่ถูกต้อง (บรรณาธิการบริหาร)

ข่าวเด่นประจำวัน

ส วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2568

ภ.1 เปิดเผยดำเนินการประชาสัมพันธ์ในเพจ Facebook ห้วงเทศกาลสงกรานต์
(อ่านแล้ว 5397 ครั้ง)

วันนี้ 12 เม.ย.2568 พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงการปฏิบัติงานของตำรวจภูธรภาค1 เพื่อประชาชน รวมถึงภารกิจประจำวัน ที่ดำเนินการประชาสัมพันธ์ในเพจ Facebook ของ ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 7 เรื่อง คือ

1.) วันที่ 9 เม.ย.68 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.(ปป) ประธานการแถลงผลการระดมกวาดล้างปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ห้วงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถึง 6 เมษายน 2568 โดยมี พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ร่วมแถลง ณ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

2.) เช็กพิกัดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไทย ตำรวจทางหลวงห่วงใย เดินทางที่สะดวกและปลอดภัยตลอดเส้นทาง ให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเตรียมพร้อม เช็กสถานีชาร์จระหว่างทางได้ง่าย ๆ แค่สแกน QR Code ในภาพ

3.) 5 เรื่องควรระวัง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้วยความปรารถนาดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

4.) ตรวจเยี่ยมสายตรวจ #ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ 9 เม.ย.68 ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 ตรวจเยี่ยมสายตรวจ สภ.บางพลี และ สภ.บางพลีน้อย แนะแนวทางในการปฏิบัติงาน กำชับให้ปฏิบัติตามนโยบายของ ตร. และ ภ.1 โดยเคร่งครัด พร้อมมอบรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดย สภ.บางพลี

มอบรางวัลให้แก่สายตรวจที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย 1 คดี และชมการสาธิตฝึกทบทวนการระงับเหตุบุคคลคลุ้มคลั่ง โดยมี พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี, พ.ต.ท.เถลิงเกียรติ มณีอินทร์ รอง ผกก.ป.ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ สภ.บางพลี

.สภ.บางพลีน้อย มอบรางวัลให้แก่สายตรวจที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย 1 คดี และชมการสาธิตฝึกทบทวนการระงับเหตุบุคคลคลุ้มคลั่ง โดยมี พ.ต.อ.สุทธิชน ธงชัยภูมิ ผกก.สภ.บางพลีน้อย, พ.ต.ท.จีรวัช รุ่งกลิ่น รอง ผกก.ป.ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ สภ.บางพลีน้อย

5.) สงกรานต์ 2568 เช็กหรือยัง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำ “5 เช็ก” ก่อนเดินทาง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ปลอดภัยแน่นอน

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยและความสะดวกในการจราจร ตลอดจนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนการเดินทาง หรือ “5 เช็ก” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อความปลอดภัยของท่านและคนในครอบครัว รวมไปถึงเพื่อนร่วมทาง ดังนี้

“เช็กคน” ตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ หากรู้สึกง่วงหรือไม่สบาย อย่าฝืนขับรถต่อ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ

“เช็กรถ” ตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน เช่น เบรก ยาง ลมยาง น้ำมันเครื่อง ไฟส่องสว่าง และอุปกรณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

“เช็กบ้าน” ก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบบ้านให้เรียบร้อย เช่น ปิดประตูหน้าต่าง ปิดแก๊ส ปิดไฟ และที่สำคัญ อย่าลืม “ฝากบ้านไว้กับตำรวจ”

“เช็กทาง” วางแผนเส้นทางล่วงหน้า เช็คสภาพการจราจร สภาพอากาศ พื้นที่ที่มีการก่อสร้าง รวมถึงจุดแวะพักต่าง ๆ ในกรณีที่ต้องเดินทางไกล

เช็กบัญชี“ ระวังมิจฉาชีพหลอกขายตั๋วเดินทางหรือที่พักปลอม ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขาย และตรวจสอบบัญชีธนาคารให้ถูกต้องก่อนโอนเงิน.

หากพี่น้องประชาชนปฏิบัติตาม “5 เช็ก” ที่กล่าวมาข้างต้น ท่านก็จะสามารถใช้เวลาพักผ่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้อย่างมีความสุข สนุกสนาน และปลอดภัย อย่างแน่นอน.

ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนต้องการแจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือ สามารถโทรศัพท์มาที่ สายด่วน 191 สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 หรือ สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร (กรุงเทพมหานคร) 1197 .

และหากพี่น้องประชาชนพบเห็น หรือได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงของมิจฉาชีพ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

6.) ตำรวจทางหลวง แนะนำเส้นทางเลือกเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย ‘สงกรานต์ 2568’ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความหนาแน่นบนถนนสายหลัก ตำรวจทางหลวงขอแนะนำเส้นทางเลือกสำหรับผู้เดินทางในเส้นทางต่าง ๆ ดังนี้

กรุงเทพฯ - ภาคเหนือ

1️⃣ วงแหวนตะวันออก (ถนน ทล.9) เลี้ยวซ้ายเข้าทางระดับคลองหลวงใช้ทางหลวง 3214 เข้าสู่ทางหลวง 347 และ 32 (สายเอเชีย)

2️⃣ วงแหวนตะวันตก (ถนน ทล.9) เชื่อมต่อทางหลวง 340 และ 32 ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี - ชัยนาท - อุทัยธานี

กรุงเทพฯ - ภาคอีสาน

1️⃣ ถนนพหลโยธิน (ถนน ทล.1) เข้าทางแยกต่างระดับบางปะอิน และเข้าสู่จังหวัดสระบุรี

2️⃣ ถนน ทล.304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา - นครราชสีมา - บุรีรัมย์

3️⃣ เส้นทางสาย ทล.21 และ ทล.205 มุ่งหน้าสู่จังหวัดชัยภูมิ - ขอนแก่น - อุดรธานี

กรุงเทพฯ - ภาคตะวันออก

1️⃣ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์)

2️⃣ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านมีนบุรี - หนองจอก ออกสู่ภาคตะวันออก

3️⃣ใช้ทางหลวงหมายเลข 34 (เทพรัตน) ผ่านบางนา - บางปะกง หรือใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีออกสู่ภาคตะวันออก

4️⃣ทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท)

กรุงเทพฯ - ภาคใต้

1️⃣ ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2)

เส้นทางผ่านจังหวัดสมุทรสาคร - สมุทรสงคราม - เพชรบุรี

2️⃣ ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม)

เส้นทางผ่านจังหวัดราชบุรี - เพชรบุรี - ประจวบคีรีขันธ์

วางแผนเส้นทางล่วงหน้า / ติดตามข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ / ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทางนะครับ

ติดตามข่าวสารที่ www.highway.police.go.th

7.) แถลงข่าวการจับกุม ผู้ต้องหา สัญชาติมาเลเซีย ชิงทรัพย์ ทองคำ หาดใหญ่

วันที่ 10 เม.ย. 68 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1

พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.9 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา สัญชาติมาเลเซีย ในข้อหา ชิงทรัพย์ฯ มีอาวุธปืนฯ

จากกรณี เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 68 เวลาประมาณ 11.52 น. ก่อเหตุ ชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำ + สร้อยข้อมือทองคำ จำนวน 69 เส้น รวมหนัก 138 บาท มูลค่าประมาณ 6.9 ล้านบาท เศษ จาก ห้างทองไทยอุดม 2 ถ.มนตรี 1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา

ต่อมา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.1 ได้รับประสานจาก บก.สส.ภ.9 ว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมายัง พื้นที่ กรุงเทพฯ และ จว.นนทบุรี

จนกระทั่งสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหา มาปรากฏตัวที่ หลังท่ารอรถโดยสาร ขนส่งสายใต้ใหม่ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุม พร้อมตรวจยึดสร้อยทองคำ ของกลางที่ลักทรัพย์มาได้ ครบถ้วน พร้อม อาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ นำตัว ผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบต่อไป