(อ่านแล้ว 5675 ครั้ง)
วันนี้ 14 ต.ค.65 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีทอล์คโชว์ เดี่ยว13 ของโน้ส อุดม แต้พานิชย์ นักแสดงนักทอล์คชื่อดัง ที่กำลังเป็นไวลัลในโลกโซเชียลในขณะนี้ ที่เนื้อหาของทอล์คโชว์ช่วงท้ายได้มีการแซวพูดถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนเกิดทั้งฝั่งที่ไม่เห็นด้วย และฝั่งที่คิดว่าโน้สพูดได้ดี ซึ่งกรณีดังกล่าว นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ได้กล่าวว่า ตนเองได้ดูเดี่ยว13 ที่เป็นประเด็นในโซเชียลค่อนข้างมาก ตนเองในฐานะที่เคยเป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี ก็ถือว่าเป็นคนที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี ตนเองอยากให้มองเรื่องนี้ให้เป็นกลางอย่ามองเป็นประเด็นทางการเมือง โน้ส อุดม จัดเดี่ยวแทบทุกเดี่ยวก็มีการแซวเสียดสีรัฐบาลทุกยุค ไม่ว่าจะทักษิณ อภิสิทธิ์ ยิ่งลักษณ์ แต่สมัยนั้นโซเชียลไม่เข้าถึงได้ง่ายและรุนแรงเช่นปัจจุบัน วันนี้ตนเองต้องบอกก่อนว่านายกรัฐมนตรีนั้นมีความตั้งใจแก้ไขปัญหาให้ประเทศแต่การรับรู้ข้อมูลของพ่อแม่พี่น้องประชาชนน้อย นั่นคือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลทำงานมามากแต่ชาวบ้านไม่เห็นต้องยอมรับว่านั่นคือข้อผิดพลาด
อย่างกรณีเดี่ยว13 สิ่งที่เราควรทำไม่ใช่โจมตี โน้ส อุดม แต่เราควรปรับเปลี่ยนความคิดทัศนะคติเขาเอาผลงานที่เราทำนำเสนอ พูดซ้ำ ตนเองมั่นใจว่าตรงนี้จะทำให้กระแสสังคมเปลี่ยนไปได้ จากการที่ประชาชนเคยถามว่านายกทำอะไรบ้าง นั่นคือสิ่งที่ตนเองคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ส.ส.หลายคนในรัฐบาลหลายท่านที่เคยมาพูดคุยปรึกษาตนเองว่าทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ ทั้งที่ ส.ส.ทุกคนของรัฐบาลทำงาน มีผลงาน มีการแก้ปัญหาต่างๆเยอะแยะแต่กลับถูกฝ่ายค้านโจมตี เพราะนี่คือเรื่องการเมืองการโจมตี การดิสเครดิตเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่สิ่งสำคัญคือเราจะยืนหยัดในเรื่องนำข้อมูลที่ถูกต้องมานำเสนอเผยแพร่แก่ประชาชนอย่างไร นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการ
การเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นถูกเป็นประเด็นเป้าโจมตีอยู่แล้ว ยิ่งทุกวันนี้ใกล้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งใน7 -8 เดือนข้างหน้า นับว่าเป็นโค้งสุดท้ายของรัฐบาล เพราะฉะนั้นจะมีการดิสเครดิตกันทางการเมือง และสิ่งเหล่านี้มีอยู่แทบทุกประเทศ แต่สิ่งที่ตนเองมองว่านายกรัฐมนตรีต้องตั้งรับและต้อบโต้ด้วยผลงาน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
นายสามารถ กล่าวต่อว่า โน้ส อุดม เขาไม่ได้ล้อแค่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ยังล้อเลียน พล.อ.ประวิตร ด้วย นั่นคือสิ่งที่เราเห็นคือ 3 ป.ยังรักมั่นแข็งแรง แสดงให้เห็นว่ากลเกมส์ของพรรคการเมืองอื่นถ้าจะล้มรัฐบาลต้องล้มทั้ง 3 ป. หากเรารับฟังที่โน้ส อุดม พูดดีๆเข้าใจคีย์เวิร์ด จะรับรู้ว่า โน้ส อุดม พูดว่าเขาเคยรัก พล.อ.ประยุทธ และคนที่นั่งในฮอลล์ก็เคยรักเช่นเดียวกันแต่ในทุกวันนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว ตนเองมองว่าข้อมูลข่าวสารที่เขาได้รับ จากโซเชียลมีเดีย หรือจากคนรอบข้าง จากผู้ที่เป็นกระแส ก็ดี สะท้อนออกไปว่าการทำงานของนายกล้มเหลว ทำให้เขารับรู้ข้อมูลเท็จ อย่างที่ตนเองเคยพูดประจำว่า ผลงานรัฐบาลมีมากมาย เช่นวิกฤติโลก สงครามรัสเซีย ยูเครน เราก็รอดพ้นมาได้ เราเจอวิกฤติโควิด19 เราก็สามารถดำเนินประเทศมาได้ และอีกหลายๆเรื่อง แต่ทำไมคนยังมองว่า พล.อ.ประยุทธ ไม่ทำงาน หรือ ทำงานไม่เป็นไม่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี นั่นก็เพราะเขาเสพข้อมูลบิดเบือน ข้อมูลเท็จที่อยู่ในโซเชียลมีมากมาย และถูกผลิตซ้ำถูกส่งต่อ ถูกขยายความ ทำให้ประชาชนเชื่อไปแล้วว่านายกรัฐมนตรีไม่มีความเหมาะสม ตนเองจึงมองว่านี่คือปัญหาใหญ่ ซึ่งสิ่งสำคัญเราต้องแก้ปัญหานี้ในการประชาสัมพันธ์ การปิดข้อมูลเท็จ การนำข้อมูลจริงเข้าถึงประชาชน เราไปว่าโน้ส อุดม ก็ไม่ถูกต้องเราต้องใช้ข้อมูลจริงในการตอบโต้ ตัวโน้ส อุดม เองเขาเป็นนักทอล์คโชว์ การที่เขาหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดแสดงว่าเรื่องดังกล่าวเป็นที่น่าสนใจ
วันนี้ต่อให้เราไปโจมตีเขา ไปดำเนินคดีกับเขาก้ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะคนเขาเชื่อไปแล้ว เราจึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลจริงให้คนรับรู้ ทางโฆษกรัฐบาลต้องมีการตอบโต้อย่างถูกวิธี และมีศักยภาพ เปลี่ยนทัศนะคติของประชาชน
ตนเองไม่เห็นด้วยกับ คุณศรีสุวรรณ จรรยา ที่ออกไปร้องเรียนโน้ส อุดม เพราะสิ่งที่โน้ส อุดม พูดนั่นเป็นความคิดส่วนตัวที่เขาเชื่อและเขาก็พูดแบบนี้มาทุกรัฐบาลไม่ใช่เพียงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สมัยนี้โซเชียลมันเร็วอย่างที่บอก เมื่อคนเข้าไปดูเดี่ยว13 ใน Netflig เขาก็ตัดเอาคำพูดบางคำ บางตอนมาลงในโซเชียลมีเดีย นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องโต้ตอบ โต้ตอบด้วยข้อมูลข่าวสารความจริง ไม่ใช่โต้ตอบด้วยกฎหมาย หรือความรุนแรง เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในการเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคการเมืองเองก็เช่นเดียวกันต้องมีการประชาสัมพันธ์ผลงานแต่ละพรรค เพราะฉะนั้นไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปฟ้องร้องดำเนินคดีกับ โน้ส อุดม และรัฐบาลเองก็จัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ย โดยกระทรวงยุติธรรมเพื่อลดความขัดแย้งลดการฟ้องร้องคดี เพราฉะนั้นถ้าเราไปไล่ฟ้องร้องชาวบ้าน ตนเองไม่เห็นด้วยนอกจากเขาจะทำผิดกฎหมาย ละเมิดกฏหมายที่รุนแรง อย่างโจ่งแจ้ง อันนี้รัฐบาลสามารถดำเนินคดีเพื่อไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง นายสามารถ กล่าวทิ้งท้าย