นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัวแสดงความคิดเห็นกับการที่โลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของคนรุ่นใหม่ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงนโยบายพรรคการเมืองในช่วงนี้ไม่มีใครแปะป้ายหาเสียงในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง  เช่น  ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้มีข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดข้อมูลสถิติแจ้งความอาชญากรรมทางออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 – 11 มีนาคม 2566 พบว่ามีการรับแจ้งความคดีออนไลน์ 5 อันดับแรก คือ

1.หลอกลวงซื้อขายสินค้า จำนวน 73,252 คดี ความเสียหาย 955,427,866 บาท

2.หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม จำนวน 29,945 คดี ความเสียหาย 3,323,194,517 บาท

3.หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน จำนวน 24,821 คดี ความเสียหาย 1,034,104,918 บาท

4.หลอกลวงทางโทรศัพท์เป็นขบวนการ (Call Center) จำนวน 20,013 คดี ความเสียหาย 3,505,338,808 บาท

5.หลอกให้ลงทุน (ที่ไม่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชน) จำนวน 16,460 คดี ความเสียหาย 7,661,884,637 บาท

ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามีประชาชนแจ้งความออนไลน์จำนวนมากความเสียหายในหนึ่งปีนั้นหลาย หมื่นล้านบาทเงินเหล่านั้นเป็นเงินของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่หามาด้วยความสุจริตแต่ไม่มีพรรคการเมืองไหนทำเป็นนโยบายที่จะแก้ปัญหานี้เลยประกอบกับล่าสุดมีคลิปวีดีโออาจารย์ของสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังได้ออกคลิปวิดีโอวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้เช่นเดียวกันว่าเด็กนักศึกษาอายุ 18-19ปีก็ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการแชร์ลูกโซ่ที่มีการพัฒนาการรูปแบบไปมากมาย เช่นล่าสุดเรื่องกล่องสุ่ม สุดท้ายก็เป็นแชร์ลูกโซ่ได้แต่ก็ไม่เห็นมีพรรคการเมืองไหนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ทั้งที่แชร์ลูกโซ่นั้นทำลายเศรษฐกิจของประเทศทำลายครอบครัวเพราะทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อแล้วกว่าจะได้รับเงินคืนยาวนานจนบางครอบครัวต้องหย่าร้างเพราะเป็นหนี้ เป็นสินจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยถึงสูงเป็นอันดับสองของเอเชียและไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนี้สาธารณะของประเทศนั้นโตขึ้นถ้าเรามองเรื่องนี้อย่างจริงจังและเข้าใจปัญหาจะต้องออกเป็นนโยบายในการแก้ไขปัญหานี้

ตนเองก็ทำเรื่องนี้มานานเกือบสิบปีทั้งให้ความรู้ ทั้งช่วยเหลือทางกฎหมายช่วยเหลือทางกระบวนการยุติธรรมเราเห็นเลยว่าโครงสร้างกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยในเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์นั้นช้ามากจึงต้องเห็นควรออกเป็นนโยบาย

เมื่อสี่ปีที่แล้วตนเองผลักดันให้พลเอกประยุทธ์ลั่นวาจาว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน 12 เรื่องที่ต้องแก้ปัญหา แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้เพราะคนแก้ปัญหานั้นไม่เข้าใจปัญหา  คนเป็นรัฐมนตรีขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ ตนเองจึงคิดว่าถ้าพรรคการเมืองไหนทำเป็นนโยบายหาเสียงก็จะได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างน้อยเป็นล้านคะแนนแต่จะมีพรรคการเมืองไหนกล้าที่จะพูดเรื่องนี้ 

ตนเองก็ขอให้คนไทยทั้งประเทศตระหนักเรื่องนี้ เพราะสุดท้ายเราคนไทยก็ต้องอยู่กับระบบอยู่กับกระบวนการยุติธรรมทำแบบนี้  วันนี้ผมถึงเอาคลิปที่แพร่หลายในโลกออนไลน์  คนทำคลิปอายุเพียง สามสิบกว่าปี โลกต่อไปเป็นโลกของเขา  ผมมั่นใจว่านี้คือการระเบิดมาจากคนรุ่นใหม่ ปัญหาที่คนมีเงิน มีความรู้ แก้เองไม่ได้ ต้องให้กลไกการเมืองเป็นคนแก้ เหมือนสมัยก่อนพลเอก เปรม ฯ เคยได้ทำไว้  จนสุดท้ายท่านได้เป็นรัฐบุรุษ เพราะท่านทำคุณเพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง ผมมั่นใจใครหยิบเรื่องนี้เป็นนโยบาย จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน นายสามารถ กล่าวทิ้งท้าย