(อ่านแล้ว 5375 ครั้ง)
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยเกี่ยวข้องกับการแก้ไขมาตรา 112 ว่า ตนเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ จึงขอฝากไปถึงคนไทยทั่วประเทศว่า การแก้กฎหมายมาตรา 112 ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง กระบวนการคัดกรองของประเทศไทย พนักงานสอบสวนต้องมีหลักฐานจนเชื่อได้ว่า มีความผิดเกิดขึ้นจริงถึงจะสั่งฟ้องคดีไป และยังมีพนักงานอัยการทำหน้าที่ตรวจสอบสำนวนของพนักงานสอบสวนอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งรายละเอียดในมาตรา 112 ระบุว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขเหล่านี้ก็ฟ้องไม่ได้ ต่อให้ใครจะเป็นคนมาฟ้อง ก็ฟ้องไม่ได้ เพราะองค์ประกอบความผิดไม่เข้าข่ายที่จะดำเนินคดีได้
"ไม่ต้องห่วงว่าถ้าท่านไม่ได้พูดถึง ไม่ได้ไปดูหมิ่น หรืออาฆาต ไม่เดือดร้อนแน่นอน ตนขอฝากไปถึงนายพิธาว่า เวลาขึ้นเครื่องบิน ถ้าคุณไปพูดว่ามีระเบิดหรือไม่ คุณยังพูดไม่ได้เลย เป็นคำพูดต้องห้าม นายพิธาลองไปเรียกร้องให้สามารถพูดได้ดู แล้วประเทศจะเกิดความวุ่นวายแค่ไหน ถ้าทุกคนอ้างเสรีภาพ สิทธิของประชาชน ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร"
นายสามารถ กล่าวต่อว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่รักยิ่งของคนไทย ทำไมต้องไปดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย ไปพูดถึงพระองค์ท่านในทางที่ไม่ดี ถ้าพูดถึงท่านในทางสรรเสริญ เคารพ สักการะ ไม่มีใครไปเอาผิดได้ ต่อให้เป็นเทพตำรวจ เทพอัยการ ก็ดำเนินคดีกับท่านในมาตรา 112 ไม่ได้ สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง เวลานายพิธาหาเสียง อย่าพาดพิง อย่าโจมตึ อย่าปลุกระดม ให้คนเข้าใจผิดในสาระสำคัญของมาตรา 112 ผมกังวลจะมีคนร้องยุบพรรคก้าวไกล ผมสงสาร ส.ส. ที่เป็นคนดี จะเดือดร้อนไปด้วย