ติดตามข่าวท้องถิ่น ร้องทุกข์ชาวบ้าน ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม การเมือง บันเทิง กีฬา และคอลัมน์ วิเคราะห์เจาะลึก รายการพากินพาเที่ยว รับงานอีเวนท์ออกสื่อทุกชนิด สมัครเป็นสมาชิกส่งข่าว ร้องทุกข์ และร้องเรียนได้ที่ pooth.pnn@gmail.com *ห้ามมิให้ผู้สื่อข่าวใช้จรรยาบรรณไปในทางไม่ถูกต้อง (บรรณาธิการบริหาร)
วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567
รมว.พน.เปิดงาน ครบรอบ 20 ปี อาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติ สร้างบุคลากรด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานกว่า 180,000 คน
(อ่านแล้ว 5149 ครั้ง)
Share on Google+

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 พ.ย. 2566 นายพีระพันธุ์ สาสีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานใน"งานครบรอบ 20 ปี อาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติ สู่ปีแห่ง คน เครื่องจักร และระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutality)"

โดย อาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติ แห่งนี้ นับเป็นความภูมิใจของกระทรวงพลังงานในการเป็นตันแบบอาคารด้านการอนุรักษ์พลังงานของประเทศไทยแห่งแรก ๆ และเป็นอาคารสำหรับจัดฝึกอบรมด้านการอนุรักษ์พลังงานให้กับบุคลากรของโรงานและอาคารควบคุม และนอกข่ายควบคุม หรือเอสเอ็มอี ซึ่งปัจจุบันถือเป็นกลุ่มที่มีการใช้พลังงานสูง รวมถึงส่งเสริมการใช้เครื่องจักร อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วยมาตรการด้านกฎหมาย การเงิน มาตรการจูงใจแล้ว ด้านการพัฒนาบุคลากร ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการจัดการพลังงานภายในองค์กรมายาวนานกว่า 20 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอาคารแห่งนี้ได้สร้างคุณประโยชน์ทางด้านการอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานทดแทนให้คนหลาย ๆ รุ่น รวมทั้งได้แสดงให้เห็นถึง ศักยภาพและเผยแพร่ความสำเร็จด้านการอนุรักษ์พลังงาน ตลอดจนการใช้พลังงานทดแทนผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในภาคอุตสาหกรรม อาคารธุรกิจ และครัวเรือน

 

ซึ่ง นายพีระพันธุ์ สาสีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขอชื่นชมคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงานทุกท่าน ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการเผยแพร่องค์ความรู้ และข้อมูลทางวิชาการ ด้านการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานทดแทน ภายใต้แนวคิด คนอัจฉริยะ (Smart People) เครื่องจักรอัจฉริยะ (Smart

Machine) และระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ (Smart System) ซึ่งเป็นฟันเฟืองที่สำคัญ ในการผลักดันให้ประเทศไทยได้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าชเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเกิดความมั่นคงเป็นธรรม และยั่งยืน ทางด้านพลังงาน เพราะผมให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านพลังงานให้มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ ที่นำองค์ความรู้ไปปรับใช้ในสถานประกอบการให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

ด้าน นายโสภณ มณีโชติ รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาพลังงนทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า อาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติได้ถูกออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามแนวคิดการผสมผสานการใช้เทคโนโลยีร่วมกับใช้หลักการธรรมชาติ แบบ Passive design คือ การออกแบบที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้วิธีการออกแบบที่ประหยัดพลังงาน และใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อม เช่น การใช้แสงธรรมชาติ การใช้พื้นที่ให้เหมาะสม การใช้วัสดุที่เหมาะสม และการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยมลพิษกลับสู่สิ่งแวดล้อม โดยไม่ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องกลไฟฟ้าเพิ่มเติม การออกแบบ passive design จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานและเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระยะยาว ซึ่งภายในอาคารใช้เป็นศูนย์แสดงเทคโนโลยีด้านการอนุรักษ์พลังงานของภาคอุตสาหกรรม ภาคอาคารธุรกิจ และภาคบ้านอยู่อาศัย รวมถึงการแสดงเทคโนโล่ยีด้านพลังงานทดแทน เช่น solar Rooftop เป็นต้น ซึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 จนถึงปัจจุบัน มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ รวมแล้วมากกว่า 180,000 คน และมีผู้เข้าเยี่ยมชมเทคโนโลยีพลังงานภายในศูนย์แสดงในภาคอุตสาหกรรม ภาคอาคารธุรกิจ และภาคบ้านอยู่อาศัย มากกว่า 124,000 คน

โดย นายโสภณ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า อาคารแห่งนี้ใด้ผ่านมาตรฐานการจัดการพลังงาน ISO 50001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล ให้แก่โรงงานและอาคารควบคุมในการจัดการพลังงาน และนับเป็นอาคารภาครัฐกลุ่มแรกที่จะได้รับรองมาตรฐานนี้ โดยตลอดเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา พพ. ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนภาคประชาชน ที่ให้ความสำคัญ กับการพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความสามารถในการพัฒนาพลังงานของประเทศได้เป็นดี พพ. จึงได้มอบรางวัลให้กับสถานประกอบการที่มีผลการประหยัดพลังงานดีเด่น และได้ดำเนินการจัด

การพลังงานครบถ้วนตามกฎหมาย รวมทั้งสิ้น 20 รางวัล โดยแบ่งเป็น สถานประกอบการประเภทโรงงาน จำนวน 13 รางวัล ได้แก่บริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) สาขา 18 โรงฟีนอล , บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด , บริษัท เมโทร ปาร์ติเกิล จำกัด , บริษัท คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด , บรัษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โรงแยกก๊าชธรรมชาติระยอง ,การโฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงไฟฟ้าวังน้อย , บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด โรงสูบน้ำบ้านค่าย (กิจการประปาระยอง) ,บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท โทเร เท็กซ์ไทล์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โรงงานที่ 1 ,บริษัท เคมีแมน จำกัด , บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ท่าหลวง) จำกัด โรงงานเขาวง , บริษัท ไทยเพิ่มพูนอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัทอัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) และสถานประกอบการประเภทอาคาร จำนวน 7 รางวัล ได้แก่ บริษัท พี่แอนด์บีรัชดาโฮดต็ล จำกัด โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ , บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) โรงพยาบาลกรุงเทพ , การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ คลองเตย , บริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด (กิจการโรงฟัก) , บริษัท แอล เอซ มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด เทอร์มินอล 21 พัทยา , มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา , กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ และควอลิตี้เฮ้าส์ คิวเฮ้าส์ลุมพินี

เศรษฐกิจในประเทศ