ติดตามข่าวท้องถิ่น ร้องทุกข์ชาวบ้าน ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม การเมือง บันเทิง กีฬา และคอลัมน์ วิเคราะห์เจาะลึก รายการพากินพาเที่ยว รับงานอีเวนท์ออกสื่อทุกชนิด สมัครเป็นสมาชิกส่งข่าว ร้องทุกข์ และร้องเรียนได้ที่ pooth.pnn@gmail.com *ห้ามมิให้ผู้สื่อข่าวใช้จรรยาบรรณไปในทางไม่ถูกต้อง (บรรณาธิการบริหาร)
วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567
ประธานเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคไทย ร่วมงาน EXIM BANK เดำเนินงานครบรอบ 30 ปีด้วยเศรษฐกิจสีเขียว สร้างโลกที่เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเติบโตอย่างสมดุล
(อ่านแล้ว 5144 ครั้ง)
Share on Google+

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567  ณ อาคารเอ็กซิม เชที 1193 ถนนพลโยธิน พญาไท กรุงเทพฯ พ.ต.ประวีร์ จินดาวรรณ ประธานเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคไทย / และประธานศูนย์ส่งเสริมความร่วมมือไทย-เมียนมาร์ เข้าร่วมงานครบรอบ 30 ปี ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ซึ่งเป็นงานส้มนาแลกเปลี่ยนมุมมองและทิศทางการพัฒนาประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน Thailand's Green Future

โดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยในโอกาสครบรอบ 30 ปี EXIM BANK ว่า ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อทุกภาคส่วนทุกวันนี้ ได้แก่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โลกเปลี่ยนผ่านจากภาวะโลกร้อน (Global Warning) เข้าสู่ภาวะโลกเดือด (Glcbal Boling)นำไปสู่การเกิดภัยธรรรมชาติบ่อยครั้งและนแรงขึ้น ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยจึงต้องเร่งเดินหน้าสร้างเศรษฐกิจสีเขียวพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันอย่างสมดุลและยั่งยืน ตามเป้าหมาย SDGs และเป้าหมายประเทศไทย สู่Thailand's Green Future  ตามเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions

เป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ของประเทศไทยภายในปี 2593 และ 2608 ตามลำดับ รัฐบาลไทยมุ่งสนับสนุนกลไกและนโยบายต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เช่น ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 50% ส่งเสริมการทำเกษตรยั่งยืนและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งเป็นแรงงานส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการให้ความรู้เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต และหาแนวทางขยายตลาดต่างประเทศ ตลอดจนดึงดูดบริษัทชั้นนำของโลกในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้เข้ามาลงทุน เช่น ดาต้าเซนเตอร์ อุตสาหกรรมที่ชับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มอุตสาหกรรมใหม่ที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี และเพิ่มพูนทักษะฝีมือแรงงานไทย

ปัจจุบันประเทศไทยยังปล่อยคาร์บอนสูงกว่าหลายประเทศ อยู่ในระดับ 3.78 ตันคารับอนต่อคนต่อปี สูงกว่าประเทศอื่นในอาเชียน อาทิ อินโดนเซียและเวียดนาม  การส่งออกของไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีไม่มากนัก อยู่ในสัดส่วนเพียง 7.6% ของการส่งออกทั้งหมด ทำให้ผู้ส่งออกไทย รับตัวรับมือกับมาตรกาทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลกที่มีมากถึง 18.000 ฉบับ แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกและปรับตัวทางธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ เนื่องจากธุรกิจที่คำนึงถึง ESG มีการเติบโตของรายได้และกำไรมากกว่าธุรกิจทั่วไปกว่า 2 เท่าตัว EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังจึงสานพลังกับภาครัฐและภาคเอกชนชับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่ออนาคตของประเทศไทยและโลกที่ยั่งยืน ภายใต้บทบาท Green Development Bank ด้วยกลยุทธ์ "Greenovation ซึ่งธนาคารผ่านการพิจารณาขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอนประเภท Carbon Neutral Event ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) สำหรับการจัดงาน EXIM BANK ได้รับการสนับสนุนคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการจัดงานจำนวน 16 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด (มหาธน) ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้านความยั่งยืน


เศรษฐกิจในประเทศ