นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ที่ปรึกษา กมธ.แรงงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง ลาออกจากการเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขว่า ตนเข้าใจนายวันเป็นอย่างดี ว่าการเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง มันนับถือกันแล้วตัดขาดกันไม่ได้ จะเลิกเป็นพี่เป็นน้องกันไม่ได้ ถึงแม้จะอยู่ต่างพรรคการเมือง ความสัมพันธ์พี่น้องก็ยังคงอยู่ ซึ่งพรรคการเมืองคือ ที่รวมของคนที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน มาร่วมทำงานด้วยกัน แต่ไม่ใช่ว่า คนที่ออกจากพรรคไปแล้วจะต้องโกรธเกลียดกัน อย่างกรณีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ บิ๊กแจ๊ส เองก็เคยอยู่พรรคเพื่อไทย และเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ เช่นเดียวกับพ่อของนายวัน ก็คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็เป็นข้าราชการตำรวจเก่า

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนอยู่คนละพรรคกับนายวันและท่านเฉลิม ก็นับถือท่านเฉลิม เพราะเห็นท่านมาตั้งแต่เราเป็นเด็ก พร้อมกับคำขวัญติดหู ว่าทะเลมีฉลาม สภามีเฉลิม คำพูดนี้ก็ยังติดหูตนและยังมีอีกหลายคนที่เอาท่านเป็นต้นแบบในอาชีพนักการเมือง ส่วนตัวอยากจะอภิปรายเก่งเหมือนท่านเฉลิม ซึ่งตนมีนักการเมืองในใจหลายคนที่เราจะเอาเป็นต้นแบบได้

”ผมขอให้กำลังใจนายวัน คนอย่างนายวันจะอยู่ที่ไหนก็ได้ เพราะนายวันมีแฟนคลับและมีตัวตน มีอุดมการณ์ที่ชัดเจน คำว่า ใจถึง พึ่งได้ คำนี้เป็นสโลแกนของนายวันมานานแล้ว แต่ขอฝากวลีนี้ถึงนายวันว่า" นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกเจ้านายให้ดูน้ำใจ " ถ้าการเมืองใจแคบมันอยู่ไม่ได้ จะทำงานการเมืองต้องใจกว้าง เปิดกว้าง ผมคิดว่านายวันมีประสบการณ์ทางการเมืองสูง และเป็นคนจริงใจ ผมเชื่อว่า หากย้อนอดีตได้นายวันก็ยังเลือกที่จะไปแสดงความยินดีกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อยู่ดี “

นายสามารถ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องปกติ ก่อนหน้านี้นายวรชัย เหมะ อดีต สส.พรรคเพื่อไทยและที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าเอาแต่ลงพื้นที่ แต่ไร้ผลงาน ซึ่งนายวรชัยเคยเป็น สส.เขตสมุทรปราการ รู้ดีว่าในพื้นที่มันเป็นอย่างไรการที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นที่นิยมจะต้องทำอย่างไร นายกต้องทำงานหนักกว่านี้ ไม่ใช่นายกลงพื้นที่ แต่ไม่ได้ทำอะไร นี่คือเสียงสะท้อนว่านายวรชัย คิดอย่างไร วันต่อมา นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ออกมาโต้ว่า เป็นเพราะไม่ได้ใกล้ชิดนายกฯจึงไม่รู้ว่าทำงานหนัก ทั้งที่ 2 คนอยู่พรรคเดียวกัน จนนายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษาของรองนายกฯออกมาบอกว่า นี่คือประชาธิปไตยในพรรคเพื่อไทย

“มันสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หรือว่าสะท้อนให้เห็นคะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยตกต่ำ สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย รวมถึงการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เป็นอย่างไรนั้นสิ่งเหล่านี้ประชาชนได้เห็นหมดแล้ว“นายสามารถ กล่าว