(อ่านแล้ว 5886 ครั้ง)
วันที่ 5 สิงหาคม 2567 ที่เทศบาลเมืองคลองหลวง ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นายวรเชษฐ บุญคุ้ม ประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง , นายชัยวัฒน์ ยิ่งยวด สมาชิกสภาเทศบาลฯ และ สท.คลองหลวง เปิดเผยว่าได้เดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทยพร้อมทนายความและ สท. ทั้งหมด 9 ท่าน เพื่อยื่นหนังสือให้กับท่านรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ติดตามความคืบหน้าเรื่องรที่ ปปช.ชี้มูลความผิดนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้เกี่ยวข้องในการทุจริตถุงยังชีพที่ ปปช.ชี้มูล
สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิดเป็นจนเสร็จสิ้นกระบวนความแล้ว โดยได้มีมติให้นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวงพ้นจากตำแหน่งหรือถอดถอนฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าที่ศูนย์ดํารงธรรมกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายชัยวัฒก ดวงสอดศรี หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รับหนังสือแทนรัฐมนตรีกระทรวงไทย
นายชัยวัฒน์ ยิ่งยวด สมาชิกสภาเทศบาลฯ กล่าวว่า ผมในฐานะหน่วยงานเทศบาลฯเป็นผู้ร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของนายกเทศมนตรีฯ วันนี้ได้มาติดตามเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างถุงยังชีพ โดยได้ทราบว่าการจัดซื้อจัดจ้างทาง ปชช. ได้ชี้มูลมาโดยส่งให้ผู้ที่มีอำนาจคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้รับหนังสือจาก ปปช. ต่อมาทราบว่าผู้ว่าฯประทุมธานีได้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงมหาดไทย กระผมจึงได้มาติดตามผลการชี้มูลของ ปปช. ว่ามีการดำเนินการอย่างไรต่อ
นายสิรภัทร กาฬสิงห์ อดีตนิติกรชำนาญการ เทศบาลเมืองคลองหลวง กล่าวว่า ข้าพเจ้าได้ถูก ปปช.ชี้มูลพร้อมท่านนายกเอกพจน์ ปานแย้มเมื่อวันที 19 กุมภาพันธ์ 2567ต่อมามีเพื่อนข้าราชการไม่ว่า ผอ.ช่าง และผอ.คลัง และกองอื่นๆได้มาปรึกษากับข้าพเจ้าว่า ท่านนายกเอกพจน์ ปานแย้มยังได้ให้เซ็นเบิกจ่ายหลายรายการทีเป็นการทีผิดระเบียบและไม่เซ็นก็ดำเนินการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงบังคับข่มขื่นใจให้ปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและพนักงานราชการไม่เป็นไปตามระเบียบ ผมจึงกลัวว่าเพื่อนราชการจะโดนเหมือนผมเรื่องถุงยังชีพ ทีโดนบังคับให้เซ็นถ้าเซ็นไปจะโดนทั้งละเมิดและอาญา ซึ่งข้าราชการทีโดนบังคับให้เซ็นและไม่ยอมทำตามคำสั่งทีผิดระเบียบได้แจ้งความดำเนินคดีไปบ้างแล้ว กระผมจึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้เพื่อนๆและพี่ๆข้าราชการโดยร้องเรียนผ่านประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวงให้ติดตามเรื่องนี้
นายวรเชษฐ บุญคุ้ม ประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง กล่าวว่า ผมได้ทราบจากท่านนิติกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ถูกผู้บังคับบัญชาบังคับให้เซ็นจนเกิดคดีที ปปช.ชี้มูล และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ภายใน30วันจึงได้ร่วมเดินมายื่นหนังสือที่กระทรวงมหาดไทย เนื่องจากทราบว่ามีหนังสือที่ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้ลงนามส่งมาแล้วจากท่านผู้ว่าราชการปทุมธานีที่กระทรวงมหาดไทยแล้วจึงได้มาร่วมติดตามผลว่ามีการดำเนินการไปถึงไหนทำไมล่าช้าข้าราชการเดือดร้อนหลายคนณ.ปัจจุบัน
นายเสรี สุวรรณ์ ทนายความผู้ดูแลเรื่องร้องเรียนของนิติกร กล่าวว่า เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลจากผู้ถูกร้องเรียนจากคณะกรรมการ ปปช. และถูกชี้มูลความผิด ในเรื่องการทุจริตถุงยังชีพของเทศบาลแห่งหนึ่งที่ปทุมธานี หลังจากนั้นทราบว่าเรื่องว่ามีการได้ส่งหนังสือมาที่กระทรวงมหาดไทย ณ ปัจจุบันได้เลยระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว ทางผู้ร้องและผู้ที่ติดตามผลการร้องเรียนก็อยากจะทราบว่าผลการดำเนินการตามกฎหมายในส่วนที่ดำเนินการตามคำสั่งของมติคณะกรรมการ ปปช. ชี้มูลเป็นอย่างไรอยู่ขั้นตอนไหน จึงอยากให้ทางกระทรวงมหาดไทยชี้แจ้งผล ให้ทราบภายในกำหนด 7 วัน
นายประเทือง ลิ้มรสสุคนธ์ ชาวคลองหลวง กล่าวว่า ผมในฐานะของประชาชนชาวคลองหลวงไม่อยากเห็นคดีซ้ำเหมือนที่อบจ.ปทุมธานี กรณีนายก อบจ. ซึ่งถูกชี้มูลแล้วยังมาสมัครอีก ถ้าล้าช้าไปก็ใกล้จะหมดวาระแล้วที่เทศบาลเมืองคลองหลวง จะหมดวาระแล้วยิ่งล้าช้าจะทำให้ข้าราชการเดือดร้อนทำลายหลักฐานพยาน อยากจะให้ทางกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโปรดช่วยสั่งการให้เร็วที่สุดเผื่อความยุติธรรมกับประชาชนชาวคลองหลวงเพื่อประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและไม่ให้ราชการได้เสียหายไปมากกว่านี้ครับถ้าไม่เดือดร้อนหรือถูกกลั่นแกล้งเจ้าหน้าทีคงไม่มีการร้องเรียนเกืดขึ้น