(อ่านแล้ว 5271 ครั้ง)
วันที่ 5 กันยายน 2567 เวลา10.00นจากกรณีศาลปกครองกลางนัดพิจารณาครั้งแรก คดี นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี และพวก 2 ราย ฟ้องนายก อบจ.ปทุมธานี หลังโดนเรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ อบจ.ได้รับความเสียหายจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น 44 ล้าน
โดยการนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ตุลาการผู้แถลงพิจารณาคดีมีความเห็นยกฟ้องที่ข้อกล่าวหา ประเด็นที่ 1 คำสั่งของ อบจ.ปทุมธานีที่ให้ผู้ฟ้องคดี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ตุลาการผู้แถลงคดี แถลงว่าคดีอยู่ในอายุความในการเรียกร้องให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่ ความเห็นของผู้แถลงเห็นว่า กรณีดังกล่าว อบจ.ปทุมธานีได้มีคำสั่งให้ ผู้ฟ้องคดีชดใช้ภายในกำหนดอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่มีความเห็นของกระทรวงการคลัง (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ตาม ม.10 วรรคสอง พรบ.ละเมิด ประกอบ ข้อ 18 วรรค 1 และ 2 ของระเบียบ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ความรับผิดทางละเมิด จึงเป็นคำสั่งโดยชอบแล้ว
ประเด็นที่ 2 สำหรับสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย อายุความ 10 ปีนับแต่วันทำละเมิด ตุลาการผู้แถลงคดีมีความเห็นว่า เป็นการเรียกร้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ซึ่งมีอายุความ 15 ปี กรณีดังกล่าวจึงถือว่าใช้สิทธิเรียกร้องภายในอายุความ
ประเด็นที่ 3 สำหรับโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามความเห็นของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ที่กำหนดสัดส่วนความรับผิดให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้นั้น เนื่องจากโครงการดังกล่าวมาจากความต้องการของประชาชนและปัจจุบันอุปกรณ์ดังกล่าวก็ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ดี เมื่อระยะเวลาในการจัดซื้อ และเมื่อคำนึงถึงความร้ายแรงแห่งการกระทำ และความเป็นธรรม ระดับความเสียหายที่เกิดขึ้น และความต้องรับผิดของ ผู้ฟ้องคดีในฐานะ นายก อบจ. ในขณะนั้น มิได้ทักท้วงในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ถือว่าความเห็นของกระทรวงการคลังเป็นธรรมและชอบแล้ว
สรุปคำฟ้องที่ ผู้ฟ้องคดี (นายชาญ) ฟ้องให้เพิกถอนคำสั่ง อบจ.ปทุมธานี ตุลาการผู้แถลงเห็นว่า ควรยกฟ้อง
กรณีดังกล่าว องค์คณะตุลาการแจ้งว่า คำแถลงของตุลาการผู้แถลงคดีไม่มีผลผูกพันองค์คณะและคำพิพากษาในวันนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 ก.ย. 67 นี้