(อ่านแล้ว 5120 ครั้ง)
วันที่ 8 ต.ค.2567 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1/ศอ.ปส.ภ.1 กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงคราพิเศษ ได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่า นายศราวุฒิ หรือเขียว อายุ 36 ปี และนายกฤษณะ หรือแทน อายุ 25 ปี ได้ร่วมกันลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเชียงเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย
ต่อมา ในวันที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้สืบสวนทราบว่า นายศราวุฒิ หรือเขียวฯ ใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด และนายกฤษณะ หรือแทนฯ ใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา เป็นยานพาหนะในการสำรวจด่านตรวจยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเชียงเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตาม จนถึงบริเวณลานจอดรถหลังร้านสะดวกซื้อโลตัส โกเฟรช สาขาตลาดเฉลิมพระเกียรติ ม.1 ต.เขาดินพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เวลาประมาณ20. 45. น.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตนเข้าตรวจสอบ จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง 1.) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 12 กระสอบ พบยาบ้าจำนวน 5,390,000 เม็ด 2.) รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว จำนวน 1 คัน (ใช้ลำเลียงยาเสพติด)
3.) รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา จำนวน 1 คัน (ใช้สำรวจเส้นทาง)
โดยกล่าวหานายศราวุฒิ หรือเขียวฯ และนายกฤษณะ หรือแทนฯ กระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายศราวุฒิ หรือเขียวฯ และนายกฤษณะ หรือแทนฯ รับว่าได้ได้ลำเลียงยาเสพติดมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อนำมาส่งมอบให้กับผู้รับในพื้นที่ตอนใน โดยนายศราวุฒิหรือเขียวฯ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 70,000 บาท และนายกฤษณะหรือแทนฯ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท
การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติด
ของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 107,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผล ถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป