(อ่านแล้ว 5064 ครั้ง)
พลเรือเอก ประสาน สุขเกษตร ประธานกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) และ กตป. ด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) พร้อมที่ปรึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.อัศวิน เนตรโพธิ์แก้ว หัวหน้าโครงการ พร้อมคณะทำงาน ร่วมจัดการประชุมเพื่อรายงานผลการดำเนินงาน
โดยได้ทำการเก็บรวบรวมและสำรวจข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อเสนอแนะของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยการสังเคราะห์ข้อมูลจากเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 17 ตัวอย่าง และการจัดสนทนากลุ่ม 5 ภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 15 จังหวัด และเก็บข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถามจำนวน 2,500 ชุด รวมทั้งดำเนินการสุ่มตรวจพื้นที่ในหมู่บ้านพื้นที่ห่างไกล (Zone C) และพื้นที่ชายขอบ (Zone C+) ที่ กสทช. ดำเนินการติดตั้งระบบเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน 2567
พบว่า โครงการฯ ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เพิ่มขึ้น โดยผลการวิจัยเชิงปริมาณ ชี้ให้เห็นถึง การรับรู้สิทธิและเสรีภาพในการใช้บริการโทรคมนาคม USO Net ของประชาชน รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการ โดยได้ประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานของ กสทช. ในด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการเข้าถึงโครงการ USO Net ตามหลักธรรมาภิบาลการกำกับดูแลที่ดี
นอกจากนี้ ยังได้มีการสัมภาษณ์เชิงลึกถึง ความเป็นมาของโครงการ การบริหารจัดการ ปัญหาและอุปสรรค และศักยภาพของโครงการ USO Net ในการพัฒนาเป็นศูนย์บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ รวมถึงการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับ สิทธิและเสรีภาพในการเข้าถึงโครงการ ช่องทางการรับรู้ และความต้องการของชุมชนในการใช้บริการ เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์บริการดิจิทัลแบบครบวงจร
ผลการวิจัยยังได้นำเสนอข้อเสนอแนะในการพัฒนาโครงการ USO Net ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การขยายจุดให้บริการให้ครอบคลุม การจัดอบรมให้ความรู้แก่ประชาชน และการส่งเสริมให้ศูนย์ USO Net เป็นศูนย์ช่วยเหลือคนพิการในการเข้าถึงบริการดิจิทัลแต่ยังคงมีปัญหาและข้อจำกัด เช่น สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ครอบคลุม ความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร ขาดแคลนอุปกรณ์ และความรู้ในการใช้งานเทคโนโลยี
ซึ่ง กสทช. ยืนยันจะนำข้อเสนอแนะไปพัฒนาโครงการ USO Net ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ และลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลในประเทศ