
(อ่านแล้ว 5361 ครั้ง)
พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 ,พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.พีรศักดิ์ รอดบน รอง ผบก.สส.ภ.1 ,พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.1 ร่วมสั่งการ ว่าที่ พ.ต.ต.เกริกเกียรติ ฮวดกุล สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.1 พร้อมกำลัง เข้าตรวจสอบตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญาอนุมัติหมายค้น ที่ 460/2568 ลง 16 มิ.ย. 2568 ให้ตรวจค้น บ้านเลขที่ 2/19 ซ.วัฒนานิเวศน์ 1/1 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 17 มิ.ย.2568 จับกุมผู้ต้องหาคือ น.ส.อมิตา อายุ 29 ปี ซอยรังสี แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง
1.เครื่องสูบบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ ไอคอส (IQOS) จำนวน 10 ชิ้น ราคา 40,000 บาท
2.ไส้บุหรี่ ยี่ห้อ TEREA จำนวน 321 คอตตอน ราคาคอตตอนละ 2,100 บาท รวมราคา 674,100 บาท
3.เทปกาว 63 ม้วน
4.ที่ตัดเทป และเครื่องปริ้นออเดอร์ 2 เครื่อง
5. ปากกา 1 ด้าม
6. กล่องพัสดุแพ็คของ 240 กล่อง
พร้อมด้วยของกลางทั้งหมด 6 รายการ จำนวน 637 รายการ มูลค่าของกลางรวม 714,100 บาท
พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.1 ได้สืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านทางสื่อออนไลน์ พบผู้ต้องหาเสนอขายบุหรี่ไฟฟ้าทางช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ล่อซื้อไส้บุหรี่ จำนวน 1 คอตตอน ราคา 2,100 บาท ให้จัดส่งสินค้ามาพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต่อมาเมื่อได้รับพัสดุ จึงได้ลง ปจว. ที่ สภ.บางบัวทอง ไว้แล้ว และได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า บุหรี่ของกลางได้ส่งออกมาจากได้จัดส่งมาจากบริษัท J&T Express สาขา S_01Huai Khwang001 ย่านห้วยขวาง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2568 และสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาได้นำของออกมาส่งจากย่านวงวัฒนานิเวศน์ 1/1 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพ
ต่อมาวันที่ 17 มิ.ย.68 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 2/19 ซ.วัฒนานิเวศน์ 1/1 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ตามหมายค้นของศาลอาญา ที่ 460/68 ลงวันที่ 16 มิ.ย.68 จากการตรวจค้นพบของกลางตามบันทึกจับกุม/ตรวจยึด มูลค่าความเสียหาย 714,100 บาท และได้ทำการจับกุม น.ส.อมิตา ในข้อหา“ร่วมกันขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าหรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 พ.ศ.2562)ประกอบคำสั่งคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 และซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป









