วันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และ คุณชฎาภรณ์ พงศ์ทองเมือง ที่ปรึกษามูลนิธิฯ ได้เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่มีการจับกุม “สิริ” หรือที่รู้จักกันในนาม สาวขาใหญ่เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบ พฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับเยาวชน ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยโหด และล่อลวงเด็กหญิงอายุระหว่าง 13–16 ปีเข้าสู่การค้าประเวณี

กรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พากลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นเยาวชน เข้าแจ้งความ ที่ สภ.หนองแค จว.สระบุรี หลังถูกสาวทำตัวเป็นขาใหญ่ ปล่อยเงินกู้นอกระบบ หมั่นไส้ใคร ไปทวงหนี้ พอไม่ได้ ก็เรียกมาทำร้าย แล้วโพสต์คลิปประจาน "ตบ จ่าย จบ" พฤติกรรมทวงหนี้โหด ยังไม่พอ วันนี้มีเหยื่อแฉว่า สาวขาใหญ่หลอกเด็กไปค้าประเวณีด้วย

หนึ่งในเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อ แฉว่า นอกจากสาวขาใหญ่ จะทำตัวเป็นเจ้าแม่เงินกู้ดอกเบี้ยโหด กระทำความรุนแรงกับเด็ก ตบตีถ่ายคลิปประจานแล้ว ที่เจ็บแสบกว่านั้น คือ ล่อลวงเด็กที่ไม่มีเงินจ่ายให้ไปค้าประเวณี ครั้งละ 1,000 บาท เพื่อหาเงินมาใช้หนี้

โดยผู้เสียหายเล่าว่า ถูกสาวขาใหญ่คิดดอกเบี้ยสุดโหดกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ เช่น ยืมเงินไป 1,300 บาท แต่รวมแล้วให้ทยอยจ่ายต้น จ่ายดอกเบี้ยคืน รวมเป็นเงินกว่า 4,300 บาท เป็นต้น ถ้าลูกหนี้คนไหนไม่จ่าย ก็จะเอาดอกไปทบต้น และไปดักทำร้าย เลือกทำกับเด็กที่ไม่มีทางสู้ มีผู้เสียหายแล้วไม่น้อยกว่า 15 คน

ซึ่งหลังแจ้งความ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองแค ตามไปรวบตัว ศิรินภา สาวขาใหญ่ ได้ที่บ้านพัก ที่อยู่ไปทางรอยต่อจังหวัดสระบุรี กับจังหวัดนครนายก พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ ค้าประเวณี, ปล่อยเงินกู้นอกระบบ, ทำร้ายร่างกาย และกระทำความรุนแรงกับเด็ก

ล่าสุด คุณชฎาภรณ์ พงศ์ทองเมือง ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางพบ พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ซึ่งทางตำรวจ สภ.หนองแค และ ภ.จว.ภ.1 เข้าดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และกำลังดำเนินการขยายผลเพิ่มเติม พบเด็กผู้เสียหายรวมแล้ว อย่างน้อย 15 ราย

คุณชฎาภรณ์ กล่าวว่าวันนี้ได้เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเตรียมส่งรายชื่อเด็กเพิ่มเติมอีก 12 คนให้ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อออกหมายเรียกสอบสวน อีกทั้งยังพบข้อมูลสำคัญจากเด็กผู้เสียหายว่า อาจมีการเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติดแก่เยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อ และเยาวชนในพื้นที่ ขณะนี้ทางมูลนิธิฯ ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานพัฒนาสังคมฯ เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจและด้านการศึกษา ตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่าง สืบเส้นทางการเงิน และตรวจสอบว่า การปล่อยเงินกู้อาจเป็นเพียงฉากบังหน้า เพื่อปกปิดธุรกิจผิดกฎหมายทั้งการค้าประเวณีและค้ายาเสพติดที่ใช้เด็กเป็นเหยื่อ

ในนามมูลนิธิฯ ดิฉันขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกหน่วยงานที่ร่วมมือกันอย่างดี โดยเฉพาะ สภ.หนองแค และ สภ.เมืองสระบุรี ที่ช่วยเหลือเด็กๆ อย่างเข้าใจและเป็นมิตร จนเด็กหลายคนเริ่มเปิดใจและคลายความกลัว