
(อ่านแล้ว 5278 ครั้ง)
วันนี้ 10 มิ.ย.2568 นายธนธัส ขุนนุช เจ้าของเพจธนธัส ขุนนุช รองเอส ได้เดินทางไปรับตัวหญิงสาวที่ถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกไปทำงานที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ก่อนกักขังและไม่ให้ติดต่อญาติ
กรณีดังกล่าว ได้มีหญิงสาวอายุ21 ปี ได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือมาทางเพจ ธนธัส ขุนนุช รองเอส โดยข้อความระบุว่า “สวัสดีค่ะ หนูมาขอความช่วยเหลือ หนูโดนคนในเฟซหลอกมาทำงานที่พนมเปญค่ะ วันที่ 13 นี้ หนูต้องย้ายไปปอยเปตค่ะ หนูอยากกลับบ้านมากๆเลยค่ะช่วยหนูหน่อยค่ะ มีการขู่มีการยึดโทรศัพท์แล้วก็กักขัง” นายธนธัส ขุนนุช เจ้าของเพจ เมื่อทราบเรื่องได้ทำการสืบค้นประวัติหญิงสาว ทราบชื่อคือ น.ส.ณัฐวดี ( ขอสงงวนนามสกุล ) อายุ 21 ปี และ น.ส.พรพรม ( ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี จึงได้ทำการติดต่อประสานครอบครัวจนทราบว่า นางพลอยพรรณ นวมศิริ อายุ 39 ปี ชาวสมุทรสงคราม มารดาของ น.ส.ณัฐวดี ได้มาแจ้งความต่อ พ.ต.ท.เชษฐา อ่อนสุด รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ว่า วันที่ 28 พ.ค. น.ส.ณัฐวดี และ น.ส.พรพรม ซึ่งเป็นเพื่อนบุตรสาว บอกว่าจะเดินทางไปทำงานที่ จว.สระแก้ว ก่อนมีรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า สีดำ ทะเบียน กง 2938 สระแก้ว มารับที่ ต.แม่กลอง อ.เมือง จว.สมุทรสงคราม ต่อมา เวลาประมาณ 00.00 น. ของวันที่ 3 มิ.ย.บุตรสาวได้โทรมาหาและบอกว่าถูกหลอกมาทำงานที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งทางมารดาก็เครียดมากไม่รู้จะต้องทำอย่างไร
นายธนธัส ขุนนุช เจ้าของเพจฯ จึงได้ติดตามเรื่องราว จนทราบว่า หยิงสาวทั้งสองคนได้ทำการขอความช่วยเหลือไปยังเพจต่างๆแต่ไม่มีการตอบกลับ จึงตัดสินใจเข้าช่วยโดยเริ่มจากให้ ครอบครัวไปยื่นเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงต่างประเทศได้แนะนำให้ยื่นเรื่องที่กงสุลและรอข้อความตอบกลับทางอีเมลล์ แต่ทางครอบครัวเกรงว่าบุตรสาวจะตกอยู่ในอันตราย ทาง นายธนธัส ขุนนุช จึงได้ทำการประสานไปยัง ผู้ช่วยทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ พร้อมส่งข้อมูลทั้งหมดให้ ซึ่งทางสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ
ได้เร่งประสานตำรวจที่ปอยเปต และ ตำรวจที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้เร่งติดตามจนทราบว่ามีหญิงสาวทั้งสองข้ามมาทำงาน ในสถานที่แห่งหนึ่งและเตรียมนำกำลังบุกตรวจค้น แต่ทางฝั่งคนจีนซึ่งคาดว่าเป็นระดับหัวหน้าแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ไหวตัวทัน จึงเอาเด็กผู้หญิงสองคน ไปทิ้งไว้ห่างกันประมาณร้อยกว่ากิโลเมตร ซึ่งทางตำรวจกรุงพนมเปญ กระจายข่าวตามหา จนชาวบ้านในพื้นที่เจอก่อนแจ้งตำรวจกรุงพนมเปญ เมื่อเจ้าหน้าที่รับตัวมาได้พาไปพักที่เซฟเฮ้าส์ พร้อมประสานกลับมาที่สถานทูตไทยให้เดินทางไปรับตัวหญิงสาวสองคนกลับมา
วินาทีที่หญิงสาวและ นายธนธัส ขุนนุช ได้พบกัน น.ส.ณัฐวดี ได้เล่าให้ นายธนธัส ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดว่า มีน้องติดต่อมาในเพจ ว่า ไปทำงานที่ จว.สระแก้วได้เงินเดือน 18000 บาท ให้ค่าคอมด้วยตกเป็น 25000 บาท น.ส.ณัฐวดี จึง ชวน น.ส.พรพรม ไปทำงานด้วย พอไปถึงที่ จว.สระแก้ว มีรถมารอรับจากนั้นได้ขายทั้งสองให้คนทางกัมพูชา ซึ่งมีคนหนึ่งได้พูดขึ้นว่าได้ค่าหัวเป็นหมื่น จากนั้นได้พาไปฝึกทำงานคอลเซ็นเตอร์ พร้อมขู่ว่าถ้าไม่ทำจะฆ่า แล้วถ้าทำไม่ได้ยอดจะส่งไปขายตัว หลังฝึกงานสองวันเสร็จมีรถมารับ แล้วพาไปที่ กรุงพนมเปญ ทั้งสองคนจึงแกล้งทำตัวดีจนทางแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เชื่อใจจึงได้ใช้โทรศัพท์หลังเที่ยงคืน เลยติดต่อบอกแม่ และหาทางขอความช่วยเหลือไปทางเพจต่างๆ แต่ยังไม่มีการตอบกลับ จึงขอความช่วยเหลือไปยังเพจธนธัส ขุนนุช รองเอส เพราะเห็นว่าเป็นคนสมุทรสงครามด้วยกัน
ซึ่งขณะนี้ทาง นายธนธัส ขุนนุช กำลังช่วยดำเนินเรื่องขอกลับประเทศไทย และยืนยันว่าไม่ได้หนีข้ามพรมแดน
นอกจากนี้ นายธนธัส ขุนนุช ได้ออกมาตอบโต้ผู้ไม่หวังดี ที่มีการปล่อยข่าวว่าตนเองและทีมงานได้เรียกค่าช่วยเหลือจากหญิงสาวทั้งสองคน คนละละ 20000 บาท ซึ่งเป็นข่าวลวงไม่เป็นความจริงทางเราได้ใช้งบประมาณส่วนตัวและการสนับสนุนจากผู้ใหญ่เพื่อช่วยเหลือคนไม่เคยร้องขอ คนตกเป็นเหยื่อก็ทุกข์ใจมากพอแล้ว









